วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

บทความประยุกต์ใช้ IT เข้ากับธุรกิจร้านไอศกรีม SWENSEN'S

ประวัติร้าน SWENSEN'S

ก่อตั้งขึ้นโดย Earle Swensen ซึ่งต้องการที่จะมีร้านไอศกรีมส่วนตัวจึงได้ทำการเปิดร้านไอศกรีมขึ้นที่ San Francisco ในปี 1948 The Minor Food Group คือบริษัทผู้ได้รับเฟรนไชส์ของ Swensen's ในประเทศไทย รู้จักกันดีกับไอศกรีมซันเด Swensen's ได้พัฒนาต่อเนื่องมานานหลายปีจนเกิดเป็นสาขาร้านอาหารบรรยากาศสบายสไตล์ครอบ ครัว ที่ไม่ได้มีเสิร์ฟเฉพาะไอศกรีมเท่านั้น แต่มีทางเลือกที่มากขึ้นอย่างอาหารหลากหลาย ของหวานและเครื่องดื่ม เค้กไอศกรีมและสามารถสั่งห่อกลับบ้านได้ เวลา 26 ปี ในสิงคโปร์ Swensen's กลายเป็นชื่อที่คุ้นเคย แรกเริ่ม Swensen's เปิดเป็นร้านอาหาร 200 ที่นั่ง ที่ Thomson Plaza ในปี 1979 ปัจจุบันมีสาขาร้านอาหารบริการครบ 21 สาขา เสิร์ฟเมนูตลอดช่วงวันทั้งอาหาร และไอศกรีมซันเด ล่าสุดมีสิ่งที่เพิ่มเติมสำหรับครอบครัวคือ Swensen's at Compass Point เปิดเมื่อ กันยายน ปี 2005 สาขาทุกสาขามีบริษัท ABR Holdings จำกัด เป็นเจ้าของและบริหารงาน เป็นบริษัทที่มีรายชื่ออยู่ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ รวมไปถึงการจัดการแฟรนไชส์ใหญ่ๆ ABR ควบคุมแฟรนไชส์ใหญ่ใน สิงคโปร์ บรูไน ฟิลิปปินส์ ปาปัวนิวกินี ออสเตรเลียและจีน อีกด้วย Swensen's ยังพยายามและบรรลุผลสำเร็จในการรับรอง Halal ทั้งในสิงคโปร์และมาเลเซีย
ใน ปี 1948 เมื่อ Earle Swensen เปิดร้านไอศกรีมร้านแรกของเขาในซานฟรานซิสโก บน Russian Hill ได้นำเสนอไอศกรีมแบบที่ว่า ดีเท่าที่พ่อเคยทำสิ่งเล็กๆที่เขาคิดคือ Swensen's เป็นชื่อที่ตั้งใจให้เป็นคำที่มีความหมายว่า ไอศครีมพิเศษอันเอร็ดอร่อย ที่โลกรู้จักกัน ตั้งแต่นั้นมาไอศกรีมกว่า 180 รสชาติ ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นและเป็นที่ชื่นชอบแก่ผู้คนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้ Earle Swensen ได้ชื่อว่า ” America 's Ice Cream Man” คนรักไอศกรีมทั้งหลายต่างก็เห็นด้วยกับชื่อนี้ เพราะปัจจุบันร้านไอศกรีม Swensen's มีสาขามากกว่า 200 แห่ง ทั่วโลก ทั้งในเอเชีย , ตะวันออกกลาง , สหรัฐอเมริกา และอเมริกาใต้
                             ประวัติของ  Earle Swensen

           ความเป็นมาของ Swensen's เริ่มต้นจากการชอบในไอศกรีมของกลาสีเรือชาวอเมริกัน Mr.Earle Swensen's เมื่อเขาพบเครื่องทำไอศกรีมขนาดใหญ่ในเรือ ที่เขาประจำการในปี ค.ศ.1942 จึงใช้เวลาว่างคิดค้นไอศกรีมรสต่างๆ แจกจ่ายเพื่อนฝูงจนกระทั่งปลดประจำการแล้วเขาได้เปิดร้าน "Swensen's Ice Cream" ณ มุมถนนยูเนียนและไฮด์ในเมืองซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนียในปี ค.ศ.1948 ในระยะแรกของการเปิดร้านเขามักแจกตัวอย่างไอศกรีมให้ลูกค้าได้ลองชิมและแสดง ความคิดเห็นเพราะเชื่อว่าคนที่ชอบรับประทานไอศกรีม Swensen's ของเขาควรมีส่วนในการทำไอศกรีมนั้นเอง ด้วยความพิถึพิถันในการเลือกส่วนผสมชั้นเยี่ยมและบริการ อย่างเป็นกันเองจนเป็นที่ประทับใจของลูกค้าทำให้ร้านไอศกรีมตามแบบฉบับดั้ง เดิมเล็ก แห่งนี้กลายเป็นกิจการที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ต่อมาในปี ค.ศ.1963 บริษัทได้ขยายกิจการออกไปในรูปแบบเฟรนไชส์ โดยในปี ค.ศ.1983 สตีฟส์ ไอศกรีม ได้รับช่วงดำเนินการต่อโดยสืบทอดคุณภาพ กรรมวิธีการผลิตและรสชาติตามแบบดั้งเดิม ขยายเครือข่ายจนปัจจุบันมีเครือขายร้านอยู่ทั่วโลก ในปี ค.ศ.1986 The Minor Group ได้ซื้อลิขสิทธิ์กิจการไอศกรีมสเวนเซ่นส์มาดำเนินการในประเทศไทยโดยเปิดที่ เซ็นทรัล พลาซ่าลาดพร้าว เป็นสาขาแรก ในไม่ช้าสเวนเซ่นส์ก็กลายเป็นร้านไอศกรีมที่อยู่ในความนิยมของชาวไทยอย่าง รวดเร็วจนมาถึงวันนี้ได้เปิดสาขาในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย โดยยึดคุณภาพมาตราฐานเดียวกันกับต้นตำรับอเมริกัน ด้วยส่วนผสมที่คัดสรรจากความสดใหม่ คุณภาพเยี่ยม และไขมันเนย 14%ให้ความเข้มขน หวานมัน พร้อมคุณค่าทางโภชนาการ นอกจากนี้ยังมีไอศกรีมสูตรพิเศษตามฤดูกาล อาทิไอศกรีมมะม่วง ให้เลือกอีกด้วย  

ร้านไอศกรีม SWENSEN'S ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ เช่น
        Swensen's ใช้ Facebook เป็นสื่อในการโฆษณาและขายสินค้า

               Swensen's ใช้ Facebook เป็นสื่อในการโฆษณาและขายสินค้า ต่างก็มีผู้คนมากมายหลายล้านคน ต่างให้ความนิยม และสนใจเข้ามาโพสต์ข้อความ หรือสถานะต่าง ๆ ไว้ใน Facebook และปัจจุบันนี้ไม่ว่า Swensens จะมีสินค้าใหม่ หรือบริการอะไรใหม่ ๆ ต่อไปนี้ลูกค้าก็จะสามารถอัพเดทข้อมูลข่าวสารได้รวดเร็วและทันใจ นอกจากนี้ Facebook ยังสามารถพูดคุย นัดหมายเพื่อน ๆ ให้มาพบปะพูดคุยกันได้อีกด้วย

PDA   กับร้านไอศกรีม  Swensen's



               การใช้ PDAอย่างแรกนั้นต้องเปิด Web โดยผ่าน Wireless ที่อยู่ในวง Lan เดียวกัน แล้ว Order จะถูกส่งไปหลังร้าน โดยผ่าน Linux server สรุปเป็น Web Application หรือ Syphon. Restaurant w-POS (Wireless Point of Service) ที่มีจากคำย่อของ Point Of Order ซึ่งเป็นระบบงานรับออร์เดอร์ไร้สาย โซลูชั่นที่ได้รับการออกแบบโดยเฉพาะ สำหรับธุรกิจร้านค้า ระบบการทำงานก็คือใช้ PDA เป็นตัวรับ Order แล้วส่งผ่าน Wire-less ไปที่ Back office ซึ่งสามารถประมวลผลจาก PDA ไปยังครัว และ Back Office ยังสามารถทำงานกับ database ได้หลายตระกูล ตัว Software ยังสามารถ Link กับหลายๆ สาขาได้อีกด้วย เช่น สาขาสยามพารากอน สาขาเซนทรัลเวิร์ล สาขาเซนทรัลปิ่นเกล้า เป็นต้น
การทำงานของเครื่อง PDA ภายในร้าน SWENSENS
1.             เครื่อง PDA พนักงานจะทำหน้าที่คอยรับและส่งออร์เดอร์ ไปยังครัว และ บาร์ต่างๆ
2.             เมื่อครัวได้รับบิลรายการออร์เดอร์แล้วนั้นก็จะส่งรายการตามในบิลรายการที่ส่งมา
ประโยชน์ของเครื่อง PDA
1.ประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาดในการรับออร์เดอร์จากลูกค้า
2.ทำให้เสริ์ฟรายการอาหารได้เร็วขึ้น หรือบางทีลูกค้ายังสั่งรายการอาหารไม่เสร็จ อาหารก็มาเสิร์ฟก่อน ทำให้ลูกค้าประทับใจ และรู้สึกดีที่ได้รับรายการที่สั่งเร็วมากขึ้น
3.ลดค่าใช้จ่าย ในการจ้างพนักงาน ในการตรวจสอบความถูกต้องของบิล
4.มีเวลาที่จะบริการลูกค้าในส่วนอื่น ๆ ได้มากขึ้น
และยังมีระบบสารสนเทศที่ธุรกิจร้านไอศกรีม SWENSEN'S   นำมาประยุกต์ใช้อีก ได้แก่ ...



         เครื่องบันทึกเงินสด   หน้าที่คือคำนวณเงินการขาย




 กล้องวงจรปิด หน้าที่คือ บันทึก ติดตาม และดูการเคลื่อนไหวภายในร้าน





 เครื่องพีซี หน้าที่คือ จัดเก็บข้อมูลดิบต่าง ๆ ของทั้งหมดภายในร้าน





 ลำโพง ใช้สร้างบรรยากาศภายในร้านโดยการเปิดเพลง



สุดท้ายนี้ไม่ว่าการดำเนินธุรกิจใด ๆ นั้น ต่างก็ต้องมีการพัฒนา เจริญเติบโตกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะให้ธุรกิจของตนเองมีผลกำไรตอบแทนสูงสุด แต่การที่จะให้ธุรกิจของตนนั้นประสบความสำเร็จได้ ก็ต้องมีการศึกษา พัฒนา วิจัย และตรวจสอบกันอยู่เสมอ ๆ ทั้งนี้เพื่อให้ธุรกิจมีความเจริญ ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ธุรกิจจึงต้องนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้เข้ากับธุรกิจของตน เพราะระบบสารสนเทศใช้งานง่าย สะดวกต่อการใช้งาน ช่วยทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ทั้งนี้ก็ทำให้ธุรกิจมีความเจริญก้าวหน้าและเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสิ่งสำคัญคือ เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความพึงพอใจสูงสุด และกลับมาใช้บริการกับเราอีกค่ะ                         
-------------------------------------------------------------------------------------



ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ
ที่มา : http://www.spufriends.com/channel/radio-detail.php?articlesID=136&userid=115